Written by 10:29 pm Aviation

“โรงพยาบาลดวงตาลอยฟ้า” หนึ่งเดียวในโลก

โครงการ Orbis ที่เดินทางรักษาดวงตาคนทั่วโลกมาแล้วกว่า 40 ปี กับหนึ่งในเครื่องบินหายาก ที่มาเยือนประเทศไทย 2 ครั้งติด ๆ กัน

อีกหนึ่งเครื่องบินสุดแปลกที่ไม่ได้จะเห็นกันได้บ่อย ๆ มาเยือนท่าอากาศยานดอนเมืองถึง 2 รอบในช่วงระยะเวลาไม่กี่เดือน (ตุลาคม 2565 และกุมภาพันธ์ 2566) เครื่องบินลำนั้นคือเครื่องบินแบบ McDonnell Douglas MD-10-30F ทะเบียน N330AU เดินทางมาแวะพักยังท่าอากาศยานดอนเมือง ประเทศไทย เป็นเวลาสั้น ๆ ทั้งสองครั้ง โดยเป็นการแวะพักเพื่อเติมน้ำมัน ก่อนบินต่อไปยังจุดหมายต่อไป…เครื่องบินลำนี้มีที่มาอย่างไร รวมถึงเรื่องราวของเจ้าของเครื่องบินลำนี้มีความน่าสนใจอย่างไร

เครื่องบินแบบ McDonnell Douglas MD-10-30

เครื่องบินแบบ MD-10 เป็นเครื่องบินที่ Boeing ทำการปรับปรุง McDonnell Douglas DC-10 ภายหลังจากการควบรวมกิจการ McDonnell Douglas เข้ามา ที่เห็นได้ชัดเจนคือการปรับห้องนักบินให้เป็นแบบ Glass Cockpit ทำให้ลดจำนวนนักบินจาก 3 เหลือ 2 คน

ห้องนักบินของ McDonnell Douglas MD-10-30F

สำหรับ MD-10 ลำในภาพนี้ มีการส่งมอบครั้งแรกให้กับสายการบิน Trans International Airlines ในปี 1973 ก่อนที่จะเปลี่ยนมือไปกับหลายสายการบิน ทั้งในสหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย สุดท้ายถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ก่อนอยู่กับ FedEx ตั้งแต่ปี 1984 ก่อนที่จะมีการบริจาคตัวเครื่องให้กับโครงการ Orbis ที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไป

โครงการ Orbis อีกหนึ่งโครงการที่ไม่เหมือนใครในโลก

โครงการนี้ดำเนินการภายใต้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Orbis International ที่ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1982 ด้วยความร่วมมือจาก องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development – USAID) และผู้บริจาคบุคคลหลายราย

เครื่องบินสามารถบรรทุกอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงดัดแปลงให้มีห้องผ่าตัดระดับเดียวกับในโรงพยาบาล

เครื่องบินสามารถบรรทุกอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงดัดแปลงให้มีห้องผ่าตัดระดับเดียวกับในโรงพยาบาล

วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ มีเป้าหมายหลักในการรักษา และให้ความรู้ด้านจักษุวิทยาให้กับพื้นที่ต่างๆทั่วโลก โดยเริ่มต้นมาจากความคิดของจักษุแพทย์ชาวอเมริกัน Dr. David Paton ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 ที่เล็งเห็นถึงการขาดการดูแลดวงตาและความรู้เกี่ยวกับโรคตาในประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ประเทศเหล่านั้นมีภาวะตาบอดของผู้คนอย่างแพร่หลาย แต่แหล่งความรู้ยังมีจำกัด รวมทั้งค่าเล่าเรียนที่สูง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ในประเทศที่มีรายได้น้อยไม่สามารถเดินทางมาสหรัฐอเมริกาเพื่อรับการฝึกอบรมได้

Dr. David Paton ผู้เล็งเห็นถึงการขาดการดูแลดวงตาและความรู้เกี่ยวกับโรคตาในประเทศกำลังพัฒนา

โครงการ Orbis เริ่มขึ้นในปี 1973 โดยเป็นการส่งแพทย์ไปให้ความรู้ในที่ต่างๆทั่วโลก ก่อนที่จะกลายมาเป็น “โรงพยาบาลและศูนย์การเรียนรู้ลอยฟ้า” ในปี 1982

การแบ่งส่วนการใช้งานต่างๆของเครื่อง

เครื่องบินของโครงการ

เครื่องบินลำแรกของโครงการในปี 1982 คือเครื่องบินแบบ Douglas DC-8-21 ทะเบียน N220RB ที่ได้รับบริจาคมาจาก United Airlines ก่อนที่จะใช้งานประมาณ 10 ปี จึงได้จัดหา McDonnell Douglas DC-10 ทะเบียน N220AU มาใช้งานแทน เนื่องจากมีขาดลำตัวที่กว้างกว่า สามารถบรรทุกอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงดัดแปลงให้มีห้องผ่าตัดระดับเดียวกับในโรงพยาบาล

เครื่องบินลำแรกของโครงการในปี 1982 คือเครื่องบินแบบ Douglas DC-8-21 ทะเบียน N220RB ที่ได้รับบริจาคมาจาก United Airlines ก่อนที่จะใช้งานประมาณ 10 ปี ปัจจุบันถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์การบินจีน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

หลังจากนั้นในปี 2008 ก็เปลี่ยนเครื่องบินอีกครั้ง เป็นรุ่น McDonnell Douglas DC-10 เช่นเดิม โดยมีทะเบียน N220AU บริจาคโดย United Airlines ก่อนที่ในปี 2012 จะเปลี่ยนเป็นเครื่องบินลำล่าสุดที่มาเยือนดอนเมืองนั่นเอง

ปัจจุบันเครื่องบินลำแรกของโครงการอย่าง Douglas DC-8-21 ทะเบียน N220RB ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์การบินจีน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ความสำคัญของโครงการนับถึงปัจจุบัน

ปัจจุบัน Orbis Flying Hospital ยังคงทำภารกิจเพื่อมนุษยธรรมทั่วโลก โดยใช้เครื่องบินลำดังกล่าว ที่ติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงห้องผ่าตัดที่สามารถรักษาอาการทางจักษุได้แทบทุกอาการ เดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งเพื่อรักษา และยังไปให้ความรู้กับบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศนั้น ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลก

การดำเนินงานของโครงการในปี 2021 มี 73 โครงการใน 13 ประเทศ

ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2021 ของ Orbis ระบุว่า มีคนกว่า 3.6 ล้านคน ผ่านการตรวจและรักษาดวงตาจาก Orbis มีการผ่าตัดที่เกี่ยวกับดวงตาไปกว่า 22,000 ครั้ง และตัดแว่นสายตาไปเกือบ 100,000 ชิ้น ให้ยา Azithromycin เพื่อป้องกันการติดเชื้อในดวงตาไปกว่า 12 ล้านโดส

Last modified: February 13, 2023
Close