Written by 1:22 pm Aviation

เส้นทาง มอสโคว – ซิมเฟโรปอล (ไครเมีย)….น่าสนใจอย่างไร?

เส้นทางนี้กลายเป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่คับคั่งที่สุดในโลกประจำเดือนพฤษภาคม 2021 จากข้อมูลของ OAG…..น่าสนใจอย่างไร?

เส้นทาง มอสโคว – ซิมเฟโรปอล (ไครเมีย) กลายเป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่คับคั่งที่สุดในโลกประจำเดือนพฤษภาคม 2021…..เส้นทางนี้น่าสนใจอย่างไร?

OAG บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลด้านการบินระดับโลก เผยแพร่ข้อมูลปริมาณที่นั่งของเส้นทางระหว่างประเทศมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม 2021 โดยเส้นทาง มอสโคว (ท่าอากาศยาน Domodedovo) – ซิมเฟโรปอล (ไครเมีย) ขึ้นแท่นเป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่หนาแน่นที่สุด มีปริมาณที่นั่ง 285,582 ที่นั่ง โดย 5 อันดับเส้นทางทั่วโลกมีดังนี้
– DME-SIP Moscow Domodedovo – Simferopol จำนวน 285,582 ที่นั่ง
– SIP-SVO Simferopol – Moscow Sheremetyevo จำนวน 197,170 ที่นั่ง
– MCO-SJU Orlando – San Juan จำนวน 181,600 ที่นั่ง
– CAI-JED Cairo – Jeddah จำนวน 176,658 ที่นั่ง
– IAH-MEX Houston – Mexico City จำนวน 131,152 ที่นั่ง

ซึ่งเส้นทางจากรัสเซียสู่ไครเมียนั้นน่าสนใจอย่างไร….

คาบสมุทรไครเมีย ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศยูเครนและทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศรัสเซีย มีดินแดนติดกับทะเลดำ ถือเป็นดินแดนของประเทศยูเครนจนถึงกรณีพิพาทระหว่างรัสเซียและยูเครนเมื่อปี 2014 ที่ผ่านมา

ช่วงต้นปี 2014 หลังจากเกิด “วิกฤตการณ์ไครเมีย” ซึ่งเป็นผลเกี่ยวเนื่องมาจากการประท้วงรัฐบาลยูเครนครั้งใหญ่ที่ทำให้ประธานาธิบดีอย่าง วิคเตอร์ ยานูคอวิช ต้องพ้นจากตำแหน่ง หลังจากนั้นไม่นาน มีการประกาศตนเป็นเอกราชของ “สาธารณรัฐไครเมีย” และยังประกาศว่าดินแดนนี้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศรัสเซีย โดยได้มีการลงประชามติก่อตั้งสาธารณรัฐไครเมียในวันที่ 17 มีนาคม 2014 และรัสเซียรับรองเอกราชในวันเดียวกัน โดยวันรุ่งขึ้นได้มีการลงนามเข้าร่วมสหพันธรัฐรัสเซียภายหลังจากการปราศรัยต่อรัฐสภาของประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน

กองกำลังรัสเซียเข้าควบคุมท่าอากาศยาน Simferopol ภาพจาก The Independent

ณ ขณะนั้นมีเพียง 4 ประเทศและดินแดนเท่านั้นที่รับรองการมีอยู่ของสาธารณรัฐไครเมีย นั่นคือ รัสเซีย, อับฮาเซีย, นากอร์โน-คาราบัค, เซาท์ออสซีเชีย โดยการประกาศเอกราชรวมถึงการทำประชามตินั้น เกิดขึ้นในขณะที่รัสเซียใช้กำลังทหารครอบครองคาบสมุทรไครเมียอยู่นั่นเอง

หลังจากนั้นในวันที่ 27 มีนาคมในปีเดียวกัน ได้มีการลงมติในที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ค โดยการประชุมนั้นมีมติปฏิเสธการแบ่งแยกดินแดนของไครเมียออกจากยูเครน รวมถึงการผนวกดินแดนเข้ากับรัสเซีย โดยหนึ่งในกว่า 100 ประเทศที่ลงมติครั้งนั้นมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย ซึ่งต่อมา ผลจากการผนวกไครเมียด้วยกำลังทหารทำให้นานาชาติคว่ำบาตรรัสเซีย ส่งผลต่อเศรษฐกิจและค่าเงินรูเบิลที่อ่อนค่าลงเกือบ 50% อย่างที่เราน่าจะเห็นข่าวผ่านตากันนั่นเอง

ผ่านมา 7 ปี ปัจจุบันไครเมียยังอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลรัสเซีย ซึ่งในมุมรัสเซียแล้วมองว่าไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ การเดินทางไปมาโดยเฉพาะทางอากาศก็เป็นไปอย่างคึกคัก โดยไครเมียมีเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือซิมเฟโรปอล มีท่าอากาศยานขนาดใหญ่ที่รองรับคนมากกว่า 6 ล้านคนต่อปี (ข้อมูลจากปี 2019)

ท่าอากาศยาน Simferopol

สำหรับมุมของสายการบินจากประเทศรัสเซีย มองว่าเส้นทางนี้เป็นเส้นทาง “ภายในประเทศ” ยกตัวอย่างการการขายบัตรโดยสารผ่านเว็ปไซต์ของสายการบิน Aeroflot จะระบุชัดเจนเลยว่าจุดหมายนี้อยู่ในประเทศรัสเซีย โดยสายการบินที่ทำการบินเข้าออกท่าอากาศยานแห่งนี้หลักๆคือ Aeroflot, S7, Ural Airlines, Yakutia Airlines สู่จุดหมายปลายทางทั่วประเทศรัสเซีย

สำหรับในมุมของประเทศอื่นๆที่ไม่ได้รับรองการมีอยู่ของสาธารณรัฐไครเมียรวมทั้งประเทศไทย ย่อมต้องมองว่าเส้นทางจากรัสเซียอยู่ไครเมียเป็นเส้นทาง “ระหว่างประเทศ” สู่ยูเครน ดังเช่นข้อมูลจาก OAG ซึ่งเป็นบริษัทจากสหราชอาณาจักรที่ย่อมต้องจัดเส้นทางนี้อยู่ในหมวดหมู่เส้นทางระหว่างประเทศนั่นเอง

ช่วงความต้องการเดินทางระหว่างประเทศยังไม่กลับมาแบบเต็มตัวเช่นนี้ เราได้เห็นเส้นทางใหม่ๆที่ปกติแล้วแทบไม่ได้ติดอันดับเพราะมีเส้นทางระหว่างประเทศมากมายทั่วโลกที่มีการเดินทางคับคั่งมากกว่านี้หลายเท่า การแพร่ระบาดของ Covid-19 กว่า 1 ปีที่ผ่านมาได้ทำให้เราเห็นอะไรใหม่ๆในอุตสาหกรรมการบินมากมายเลยทีเดียว

Tags: Last modified: May 23, 2021
Close