Written by 12:36 am Aviation

JAL123 หนึ่งในอุบัติเหตุที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ยังอยู่ในความทรงจำหลายคน กับอุบัติเหตุที่มีผู้เสียชีวิตกว่า 500 คน

12 สิงหาคม 1985  เกิดเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่แม้จะผ่านมานานแล้ว แต่ยังคงถูกจารึกไว้ว่าเป็นโศกนาฎกรรมครึ่งใหญ่ที่สุดที่เกิดกับเครื่องบินหนึ่งลำ

เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินภายในประเทศของสายการบิน Japan Air Lines มีกำหนดการเดินทางจากท่าอากาศยานโตเกียว(ฮาเนดะ) ไปยังท่าอากาศยานโอซาก้า(อิตามิ) ทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 747SR (Short Range) ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษตามความต้องการของสายการบินในประเทศญี่ปุ่นเพื่อใช้ในเส้นทางภายในประเทศที่มีความต้องการเดินทางหนาแน่น โดยการนำ Boeing 747-100 มาปรับปรุงให้มีถังน้ำมันขนาดเล็กลงเพื่อให้สามารถเพิ่มความจุผู้โดยสารและสัมภาระ ทำให้สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้มากกว่า 500 คน

Boeing 747SR (Short Range)

เที่ยวบิน JAL123 มีผู้โดยสารทั้งหมด 509 คน ลูกเรือ 15 คน รวม 524 คน ได้วิ่งขึ้นจากท่าอากาศยานฮาเนดะได้เพียงไม่กี่นาที ก่อนจะสูญเสียความดันในห้องโดยสาร ทำให้เกิดความเสียหายในส่วนของโครงสร้างเครื่องบินอย่างรุนแรงหลายจุด ภายหลังมีการเปิดเผยภาพถ่ายว่าส่วนหางของเครื่องบินลำนี้ได้หลุดออกไปอีกด้วย ทำให้นักบินไม่สามารถควบคุมเครื่องบินได้

ภาพถ่ายที่แสดงให้เห็นว่าส่วนแพนหางหลุดออกไป

30 นาทีแห่งชีวิต

นับตั้งแต่เครื่องบินสูญเสียความดันในห้องโดยสารและเกิดความเสียหายกับโครงสร้างรุนแรงในเวลา 12 นาทีหลังจากขึ้นบินหรือเวลา 18.24 น. เครื่องบินลำนี้ลอยอยู่บนอากาศด้วยความพยายามอย่างแรงกล้าของนักบินกว่า 30 นาที ก่อนที่จะตกลงบริเวณภูเขามิกุนิ ทางตอนเหนือของจังหวัดกุนมะ

เส้นทางการบินก่อนเกิดอุบัติเหตุ

เครื่องบินลำนี้ตกลงในช่วงเย็นที่แสงจากดวงอาทิตย์ใกล้จะหมดลง รวมถึงจุดตกอยู่บนความสูงกว่า 5,000 ฟุตจากระดับน้ำทะเล ส่งผลให้การค้นหาและช่วยเหลือเป็นไปได้อย่างยากลำบาก แม้มีการออกมาเปิดเผยภายหลังถึงความต้องการเข้าพื้นที่ประสบภัยของกองทัพสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ 20 นาทีหลังเครื่องตกที่ไม่ได้รับอนุญาตจากหน่วยงานญี่ปุ่น (มีการเปิดเผยในบทความจากนิตยสาร Stars and Stripes)

ภาพประกอบจาก The Japan Times

ภาพประกอบจาก The Japan Times

เชื่อมโยงกับกับเหตุการณ์เมื่อ 7 ปีก่อนหน้า

ผลการสอบสวนเหตุการณ์นี้โดยหน่วยงานสอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับหน่วยงานจากสหรัฐอเมริกา (NTSB) เปิดเผยว่าการสูญเสียความดันอย่างรวดเร็วมีสาเหตุจากการซ่อมบำรุงที่ผิดพลาดจากเหตุการณ์ที่เครื่องบินลำนี้ลงจอดแล้วส่วนท้ายสัมผัสกับทางวิ่ง (Tail Strike) ย้อนกลับในปี 1978 หรือ 7 ปีก่อนเกิดเหตุการณ์สะเทือนโลก JAL 123 ส่งผลให้โครงสร้างบริเวณดังกล่าวแตกออก เครื่องบินสูญเสียความดัน และยังทำให้ชิ้นส่วนสำคัญบริเวณท้ายลำตัวอย่างหางหลุดออกไปขณะทำการบิน

เหตุการณ์เครื่องบินตกที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ (ที่เกิดกับเครื่องบิน 1 ลำ)

เหตุการณ์ JAL123 นี้ มีผู้เสียชีวิตรวม 520 คน ถือเป็นอุบัติเหตุเครื่องบินตกที่สร้างความสูญเสียมากที่สุดในประวัติศาสตร์ที่เกิดกับเครื่องบิน 1 ลำ โดยเหตุการณ์อื่นที่มีความสูญเสียมากกว่านี้เกิดขึ้นจากปัจจัยที่ต่างออกไปนั่นคือ

– เที่ยวบิน Pan Am 1736 ชนกับ KLM 4805 ที่เกาะเตเนรีเฟ ประเทศสเปน มีผู้เสียชีวิตรวม 583 คน เป็นอุบัติเหตุที่เกิดกับเครื่องบิน 2 ลำ
– เที่ยวบิน American Airlines 11 และ United Airlines 175 ที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา ถือเป็นการก่อการร้าย

“คิว ซากาโมโต้” หนึ่งใน 520 คนที่เสียชีวิต

เหตุการณ์นี้ยังได้พรากชีวิตของนักร้องชื่อดังในขณะนั้นอย่าง “คิว ซากาโมโต้” เจ้าของบทเพลงชื่อดังที่ทุกคนคงจะเคยได้ยินอย่าง “Ue o Muite Aruk” หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ “สุกี้ยากี้” ที่เคยขึ้นถึงอันดับ 1 ในชาร์ตเพลงยอดนิยมของสหรัฐอเมริกา ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานบทเพลงที่ยังคงอยู่มาจนถึงทุกวันนี้

Kyu Sakamoto

_________________________

ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของเหตุการณ์นี้ สามารถชมได้จากสารคดีอุบัติเหตุทางอากาศชื่อดังทั้ง Air Crash Investigation และ May Day
Air Crash Investigation >> https://bit.ly/AC-JAL123
ภาพประกอบจาก Stuart Jessup/Flickr, May Day/Wonder Channel

Last modified: August 12, 2023
Close