25 พฤษภาคม 2002 เกิดอุบัติเหตุกับเที่ยวบิน CI611 ของสายการบิน China Airlines โดยเที่ยวบินนั้นทำการบินด้วยเครื่องบินแบบ Boeing 747-200 จากท่าอากาศยานเจียงไคเช็ค (ชื่อในขณะนั้น) ที่ตั้งอยู่ในไทเป ไต้หวัน เพื่อเดินทางไปยังฮ่องกง แต่หลังจากขึ้นบินได้เพียง 20 นาที เครื่องบินได้หายไปจากจอเรดาร์ และต่อมาพบว่าได้ตกลงกลางทะเลใกล้กับหมู่เกาะเพงหู (Penghu Islands) คร่าชีวิตผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมด 225 คนบนเที่ยวบิน

Boeing 747-200 ลำที่เกิดเหตุ ภาพจาก Jan-Arwed Richter

ชิ้นส่วนบริเวณหัวเครื่องบินที่เก็บกู้ได้จากกลางทะเล ภาพจาก Aviation-accident
อุบัติเหตุครั้งนี้นับเป็นอุบัติเหตุทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของไต้หวัน และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของวงการการบินทั่วโลกในด้านการซ่อมบำรุงและการตรวจสอบโครงสร้างเครื่องบิน หลังจากอุบัติเหตุดังกล่าว มีการเผยแพร่ผลการสอบสวนออกมาว่า สาเหตุที่เครื่องบินเกิดอุบัติเหตุคือ โครงสร้างของตัวเครื่องแตกออกกลางอากาศจากความเครียดของชิ้นส่วน ซึ่งเกี่ยวโยงไปยังเหตุการณ์เมื่อ 22 ปีก่อนเกิดอุบัติเหตุ

ส่วนหนึ่งของการสืบสวนสอบสวน มีการนำชิ้นส่วนเครื่องบินที่กู้ได้มาประกอบเป็นรูปทรงตัวเครื่องบิน
7 กุมภาพันธ์ 1980…
เกิดเหตุเครื่องบินลำเดียวกันนี้ลงจอดอย่างไม่ปกติ ทำให้ส่วนหางสัมผัสกับพื้นทางวิ่ง (Tail Strike) โดยมีร่องรอยความเสียหายที่ส่วนท้ายของลำตัวเครื่อง (Aft Fuselage Section) หลังจากนั้นได้มีการซ่อมบำรุงชั่วคราวก่อนจะมีการซ่อมบำรุงอีกครั้งที่ฐานการบินในภายหลัง แต่จากการเปิดเผยในรายงานสอบสวน พบว่าการซ่อมบำรุงไม่เป็นไปตาม Boeing Structural Repair Manual (SRM) ของผู้ผลิตอย่าง Boeing โดยพบว่ามีการใช้แผ่นโลหะมาปะครอบความเสียหายโดยไม่ได้ขัดผิวสัมผัสออกก่อน ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดรอยร้าวสะสม (Fatigue Cracks) และขยายตัวตามกาลเวลา จนในที่สุดทำให้โครงสร้างลำตัวเครื่องแตกกลางอากาศในเที่ยวบินที่ 611
แม้ผลสอบสวนจะมีความชัดเจนในทางวิศวกรรม แต่สายการบิน China Airlines ได้ออกมาโต้แย้งผลการสอบสวนนี้ โดยให้เหตุผลว่าผู้สืบสวนไม่ได้เจอชิ้นส่วนของตัวเครื่องที่สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าเป็นผลจากเหตุการณ์เมื่อ 22 ปีที่แล้วจริง
เที่ยวบินสุดท้ายก่อนมาไทย
สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าว ทะเบียน ณ ขณะเกิดอุบัติเหตุคือ B-18255 ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบ Boeing 747-200 ลำสุดท้ายในฝูงบินของสายการบิน และเที่ยวบินที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวยังเป็นเที่ยวบินสุดท้ายที่ China Airlines จะทำการบินด้วยเครื่องบินลำนี้ ก่อนที่จะส่งมอบให้กับสายการบิน Orient Thai Airlines จากประเทศไทยหลังจากกลับมาถึงไต้หวัน โดยมีแผนที่จะปรับปรุงเครื่องและเปลี่ยนทะเบียนเป็นของไทย
โศกนาฏกรรมครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมาก แต่ยังเป็นจุดจบของเครื่องบินลำหนึ่งที่กำลังจะเริ่มต้นเส้นทางใหม่ในอีกประเทศหนึ่ง ทว่ากลับต้องจบลงกลางทะเล พร้อมทิ้งคำถามไว้ให้โลกการบินต้องกลับมาตรวจสอบตัวเองอีกครั้ง
Last modified: May 25, 2025